รูปภาพโฆณา แบบภาพวนซ้ำ

Thailand Post's History



-

ประกาศราคากลาง จ้างทำของที่ระลึกสำหรับมอบให้ลูกค้าในการร่วมกิจกรรม โดยวิธีตกลงราคา

ธก.57/2559

ประกาศสอบราคาขายครุภัณฑ์ชำรุด จำนวน 28 หน่วย

ธก.58/2559

ตกลงราคาขายเครื่องวิทยุเฉพาะกิจ แบบมือถือ ยี่ห้อ ICOM จำนวน 1 หน่วย

ไปรษณีย์ไทย ปลื้มติดตั้ง POS ชุมชน ครบ 200 จุด ชู 3 ไฮไลท์ “อีมาร์เก็ตเพลส” “อีโลจิสติกส์” “อีเพย์เม้นท์” อัพดีกรี “อีคอมเมิร์ซชุมชน”

นครสวรรค์ 11 มิถุนายน 2561 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้าติดตั้งระบบบริหารร้านค้าปลีก หรือพีโอเอส (POS) ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต (ปณอ.) ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าชุมชน และศูนย์โอทอป เสร็จสิ้นแล้วจำนวน 200 แห่งประเทศ โดยตั้งเป้า 5,000 จุดภายในสิ้นปี 2561 พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาระบบงาน 3 ส่วนเพื่อสนับสนุน อีคอมเมิร์ซชุมชน แบบครบวงจร ได้แก่ ระบบร้านค้าออนไลน์ (e-Market Place) บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ท   ระบบการชำระเงิน (e Payment) บริการเก็บเงิน ณ ที่อยู่ผู้รับ  COD  หรือ Cash on Delivery และระบบตรวจสอบควบคุมการขนส่งที่ทันสมัย (e-Logistic) เทคโนโลยีตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้  ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่ตำบลหนองกรด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และตรวจราชการโครงการระบบบริหารร้านค้าปลีก (Point of Sale : POS) ตามโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce ของนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0” เมื่อเร็วๆ นี้


ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศเพื่อปฏิรูปประเทศไทยสู่ ดิจิทัลไทยแลนด์และขานรับนโยบาย “Digital Community” ของรัฐบาล
ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและภารกิจหลักด้านการขนส่ง โดยมีเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ ในการขับเคลื่อนโครงการ ดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce” ซึ่ง ไปรษณีย์ไทย ได้ติดตั้งระบบ
POS ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าชุมชน และศูนย์โอทอป จำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงได้ฝึกสอนให้ชาวบ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้เรียนรู้วิธีการใช้งานโปรแกรม POS จนสามารถขึ้นทะเบียนสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์แล้วมากกว่า 1,500 รายการ

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาระบบงาน 3 ส่วนเพื่อสนับสนุน อีคอมเมิร์ซชุมชนแบบครบวงจร ได้แก่ ระบบร้านค้าออนไลน์ (e-Market Place) บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ท (www.thailandpostmart.com) มาร์เก็ตเพลสเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงและสั่งซื้อได้โดยง่าย โดยปัจจุบันได้รวบรวมสินค้าชุมชนกว่า 1,500 รายการที่ได้ลงทะเบียนสินค้าเรียบร้อยแล้ว ระบบการชำระเงิน (e Payment) ระบบการชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต เครดิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หักผ่านบัญชีธนาคาร เครื่อง ATM รวมถึงบริการเก็บเงิน ณ ที่อยู่ผู้รับหรือที่เรียกว่า COD (Cash on Delivery) และระบบตรวจสอบควบคุมการขนส่งที่ทันสมัย (e-Logistic) ระบบการจัดทำฉลากจ่าหน้า ผนึกบนห่อซองและทำการจัดส่งเข้าสู่ระบบงานขนส่งด้วยระบบ Prompt Post รวมถึงเทคโนโลยีตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ได้วางแผนขยายจุดติดตั้งระบบบริหารร้านค้าปลีก หรือพีโอเอส (POS) จำนวน 5,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2561 พร้อมผลักดัน อีคอมเมิร์ซชุมชน การจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านร้านค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ทสู่การเป็น อีมาร์เก็ตเพลสระดับประเทศ” (National e-Market Place) เพื่อใช้เป็นตลาดออนไลน์ให้ชุมชนได้ศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการจำหน่ายสินค้าและบริการ สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทำให้เศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็งนำไปสู่สังคมชนบทให้มีความอบอุ่นและ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน


ทั้งนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และตรวจราชการโครงการระบบบริหารร้านค้าปลีก (Point of Sale : POS) ตามโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce ของนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ตำบลหนองกรด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th  

ไปรษณีย์ไทย เปิดตัว “รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่” รับดีมานด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นำร่องเขตกรุงเทพฯ เดือนกรกฎาคม นี้

กรุงเทพฯ 13 มิถุนายน 2561 - บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดตัว “รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่” เพื่อยกระดับความปลอดภัยของสิ่งของระหว่างการนำจ่าย ก่อนถึงมือผู้รับปลายทาง รองรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสิ่งของฝากส่งประเภทดี-แพคเกจ หนังสือเดินทาง ยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ โดยไปรษณีย์ไทย ได้ดีเดย์รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่ที่ติดตั้งกล่องไฟเบอร์กลาสกว่า 100 คัน นำร่องในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคม 2561 นี้ พร้อมมีแผนขยายการติดตั้งเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงรถจักรยานยนต์นำจ่ายดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับสู่ไปรษณีย์ไทย 4.0 เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการในทุกการฝากส่ง ทั้งนี้ พิธีเปิดตัวคาราวานรถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่ จัดขึ้น ณ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ  

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากนโยบายไปรษณีย์ไทย 4.0 พัฒนาระบบการให้บริการ พร้อมเพิ่มมาตรฐานคุณภาพระบบงานนำจ่าย เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการในทุกการฝากส่ง ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัว “รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่” ซึ่งเป็นนวัตกรรมกล่องไฟเบอร์กลาสรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับการนำจ่ายสิ่งของให้ส่งถึงมือผู้รับปลายทางด้วยความปลอดภัย และคงรูปทรงของสิ่งของตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันยังเพิ่มศักยภาพให้เจ้าหน้าที่นำจ่าย สามารถบริหารจัดการกับสิ่งของหลากหลายขนาดได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ กล่องนำจ่ายฯ พัฒนาจากวัสดุพลาสติกประเภทไฟเบอร์กลาสคุณภาพดี มีขนาดบรรจุ 148 ลิตร พร้อมเคลือบโลโก้ไปรษณีย์ไทย 3 สี รอบตัวกล่อง เป็นเอกลักษณ์จดจำง่าย เพื่อสะท้อนความเป็นไปรษณีย์ไทยอย่างแท้จริง โดยดีเดย์ใช้พร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ เดือนกรกฎาคม 2561 นางสมร กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนปริมาณงานสิ่งของที่ฝากส่งจากผู้ใช้บริการในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ประกอบกับรูปแบบสิ่งของ  ที่ผู้ใช้บริการฝากส่งเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบกล่องพัสดุเป็นจำนวนมากนั้น ไปรษณีย์ไทย จึงพัฒนาระบบการ    นำจ่ายด้วยนวัตกรรมกล่องไฟเบอร์กลาสที่จะนำมาติดตั้งท้ายรถจักรยานยนต์ โดยจะเริ่มนำร่องใช้กับการนำจ่ายกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งสิ่งของประเภทดี-แพคเกจ (D-Packet) หนังสือเดินทาง (Passport) ยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ โดยไปรษณีย์ไทย ได้ดีเดย์รถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่ที่ติดตั้งกล่องไฟเบอร์กลาสกว่า 100 คัน นำร่องในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคม 2561 นี้
สำหรับรถจักรยานยนต์นำจ่ายรูปแบบใหม่นี้ จะให้บริการนำจ่ายแก่ลูกค้าที่สั่งของจากผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ อาทิ ลาซาด้า โอ้โห สลิมพลัส เป็นต้น บริการจัดส่งหนังสือเดินทาง (Passport) และบริการจัดส่งเอกสารเพื่อแปลและรองรับทางไปรษณีย์ของกรมการกงสุล บริการจัดส่งหนังสือเดินทางที่ได้รับอนุมัติวีซ่า (Courier Pass Back Service) บริการรับจัดส่งยา/เวชภัณฑ์/สิ่งส่งตรวจต่างๆ สำหรับโรงพยาบาล/ สถานพยาบาล/ สถาบันวิจัย บริการดี-แพคเกจ บริการจัดส่งบัตรคลับการ์ดของเทสโก้โลตัส เป็นต้น ทั้งนี้ จะนำจ่ายสำหรับสิ่งของที่ส่งให้ลูกค้าหรือผู้สั่งซื้อด้วยบริการ EMS โดยเจ้าหน้าที่นำจ่ายจะโทรศัพท์นัดหมายวันและเวลากับผู้รับปลายทางก่อนหรือขณะการออกไปนำจ่ายทุกครั้ง พร้อมให้นำจ่ายสิ่งของให้ผู้รับตามเวลาที่นัดหมายกัน เรียกเก็บเงินจากผู้รับตามจำนวนที่ระบุไว้ ซึ่งการยกระดับการนำจ่ายครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบันได้
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงรถจักรยานยนต์นำจ่ายดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับสู่ไปรษณีย์ไทย 4.0 ซึ่ง ไปรษณีย์ไทย ยังคงเดินหน้ายกระดับคุณภาพการให้บริการในทุกด้าน รวมไปถึงนวัตกรรมในกระบวนการทำงานที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการไปรษณีย์แก่คนไทย และก้าวสู่การเป็น “เครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทย” อย่างเต็มภาคภูมิ นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้จัดพิธีเปิดตัวคาราวานรถจักรยานยนต์นำจ่ายโฉมใหม่กว่า 100 คัน โดยมีนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นประธานในพิธี กิจกรรมจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
ณ หอประชุมไปรษณีย์ไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ 
สอบถามเพิ่มเติมที่ THP Contact Center 1545 เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th

ปณท จห.(ทพ)/2672

ตกลงราคาขายรถยนต์ที่ชำรุดและหมดความจำเป็นใช้งานโดยขายให้แก่บุคคลทั่วไป

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader
ขออภัยครับ

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

}