รูปภาพโฆณา แบบภาพวนซ้ำ

Thailand Post's History



-

ประกาศราคากลาง เช่าระบบเครือข่ายร้านไปรษณีย์ไทย Online จำนวน 61 แห่ง โดยวิธีคัดเลือก

-

ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ซื้อสายรัดพลาสติกใช้กับเครื่องอัตโนมัติและแบบมือโยกใช้ในบริการหุ้มห้อขนาด 9 มม. จำนวน 500 ม้วน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งานก่อสร้างอาคารที่ทำการไปรษณีย์โพทะเล พร้อมงานพิเศษอืน ๆ ต.โพทะเล อ.โพทะเล จ.พิจิตร

-

ประกาศผลการจัดซื้อกระดาษเทอร์มอลสำหรับเครื่องพิมพ์ใบรับเงิน จำนวน 200,000 ม้วน โดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป

ไปรษณีย์ไทย - จุฬาฯ ขับเคลื่อนบริการการศึกษายุคดิจิทัล “Future e-Transcript, Now Delivered” ขอเอกสารรับรองผลการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Prompt Post แห่งแรกในไทย

กรุงเทพฯ 27 มิถุนายน 2568 - บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัวระบบ 
“e-Transcript” หรือใบรับรองผลการศึกษาในรูปแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน Prompt Post เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ช่วยยกระดับการจัดส่งเอกสารการศึกษาให้รวดเร็ว ปลอดภัย รองรับการใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน Digital Postbox ส่วนบุคคล พร้อมเดินหน้าขยายผลสู่สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันวางมาตรฐานกลางของเอกสารดิจิทัลสำหรับภาคการศึกษา และต่อยอดสู่การใช้งานในองค์กรภาครัฐและเอกชนในอนาคต ทั้งนี้ บริการ e-Transcript ตั้งเป้าเริ่มให้บริการไตรมาส 3 ปีนี้
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการที่จุฬาฯ จะเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ใช้ระบบ e-transcript อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงสามารถตรวจสอบความถูกต้องและปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม  ถือเป็นการปฏิวัติวงการทะเบียนของมหาวิทยาลัยไทย และยังพร้อมที่จะส่งต่อองค์ความรู้นี้ไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาที่รอบด้านและยั่งยืน
“จุฬาฯ ไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาในด้านการเรียนการสอนเท่านั้น ในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ จุฬาฯ ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือระบบงานทะเบียนของสำนักงานการทะเบียนจุฬาฯ ที่เป็นผู้ริเริ่มที่จะพัฒนาแนวคิดการทำระบบ e – Transcript ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานในงานทะเบียนของมหาวิทยาลัยมีความคล่องตัว ทันสมัย ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการขอ transcript รวมถึงยังสามารถป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะหลุดรั่ว อีกทั้งยังสามารถสร้างความมั่นใจแก่องค์กรภายนอกที่ต้องการเอกสารสำคัญที่ได้รับการยืนยันจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าเอกสารนั้นถูกต้องตรงตามความเป็นจริง” ศ. ดร.วิเลิศ กล่าว
ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ Chief Brand Officer จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตลอด 142 ปีที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยคือแบรนด์ที่คนไทยมีความเชื่อมั่น ในวันที่ทุกธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารเข้าสู่การแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ไปรษณีย์ไทยพัฒนาความแตกต่างที่เหนือไปจากความรวดเร็ว ด้วยการมียุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ดิจิทัลเพื่อต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ และเพิ่มศักยภาพในด้านการให้บริการที่มากขึ้น โดยในปี 2568 นี้ไปรษณีย์ไทยมีความเชื่อมั่นว่าแผนงานด้านธุรกิจดิจิทัล และโมเดลบริการใหม่อย่าง Prompt Post จะเป็นก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทยจากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ 
สู่อีกหนึ่งบทบาทในการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและข้อมูลที่มีบทบาทต่อการเติบโตของหลาย ๆ ภาคส่วน และยังเป็นการส่งต่อโอกาสที่สำคัญนอกเหนือไปจากการส่งพัสดุอีกด้วย
“ความเชื่อมั่นคือหัวใจของการเติบโตของแบรนด์ในยุคปัจจุบัน สอดคล้องกับแผนงานด้านดิจิทัลของไปรษณีย์ไทยที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความสะดวก แต่เป็นการขับเคลื่อนความเชื่อมั่นระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน ผ่านการออกแบบบริการที่ปลอดภัย แม่นยำ เชื่อถือได้ และมีมาตรฐานระดับสากล ทั้งนี้ มั่นใจว่าไปรษณีย์ไทยสามารถเป็น Infrastructure Partner ให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้โดยไม่จำกัดแค่การขนส่ง 
แต่รวมถึงการยืนยันตัวตน การจัดเก็บข้อมูล การส่งผ่านเอกสารสำคัญ หรือแม้แต่การสร้างแพลตฟอร์มความเชื่อมั่นใหม่สำหรับสังคมไทยในอนาคต” ผศ.ดร.เอกก์กล่าว
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า 
บริการ e-Transcript ผ่านแอปพลิเคชัน “Prompt Post” เป็นอีกช่องทางในการขอเอกสารรับรองผลการศึกษาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แก่นิสิตมหาวิทยาลัย และจัดส่งเอกสารผ่าน Digital Postbox เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของนิสิต นักศึกษาในยุคดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับบุคลากร ระบบนี้จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับมหาวิทยาลัยที่ต้องการก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“บริการ e-Transcript มีประโยชน์ครอบคลุมในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือจากการป้องกันการปลอมแปลงและการสวมรอยข้อมูลสำคัญ มีการรองรับการเข้ารหัสข้อมูลตลอดกระบวนการ ความสะดวกในการเข้าถึงและใช้งาน สามารถยื่นขอเอกสารได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์ทุกประเภท การเชื่อมต่อกับระบบของหน่วยงานปลายทาง โดยระบบสามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยและองค์กรต่าง ๆ ผ่าน API ช่วยให้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้แบบเรียลไทม์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากการช่วยลดการใช้กระดาษ และการพิมพ์เอกสารอย่างสิ้นเปลือง พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนนโยบาย Green University การรวมศูนย์ข้อมูลไว้ในระบบเดียว ซึ่งเอกสารทั้งหมดถูกจัดเก็บอย่างมีระบบภายใน Digital Postbox ส่วนบุคคล ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต และผู้ใช้งานสามารถติดตามสถานะเอกสารได้ทุกขั้นตอน เช่น ขั้นตอนการยื่นคำขอ การอนุมัติ และการจัดส่ง” 
ศ.ดร.มานะ ศรียุทธศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า 
ความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ และไปรษณีย์ไทยในการเปิดตัวบริการขอเอกสารรับรองผลการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ 
 (e-Transcript) ผ่านระบบ Prompt Post นับเป็นมหาวิทยาลัยแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานของสำนักงานการทะเบียนไปสู่ความเป็นดิจิทัล โดยเฉพาะในบริบทของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้กระดาษและความต้องการความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูล ถือเป็นการลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงเอกสาร รองรับความต้องการของหน่วยงานปลายทาง เช่น บริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัยที่รับนิสิต นักศึกษาเข้าศึกษาต่อ รวมถึงมหาวิทยาลัยต่างประเทศ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่ออกจากระบบ Prompt Post ได้ทันที อีกทั้งยังเป็นการ
ลดภาระและลดขั้นตอนการขอผลรับรองการศึกษาเนื่องจากสามารถยื่นขอเอกสารได้จากทุกที่ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเดินทางมายังมหาวิทยาลัย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ระบบเอกสารของมหาวิทยาลัยไทยในภาพรวม โดยจะเริ่มให้บริการในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 นี้  
“จุฬาฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็นผู้นำแห่งการสร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งบริการ e-Transcript ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการปรับปรุงระบบงานทะเบียนของมหาวิทยาลัยในภาพรวม” ศ.ดร.มานะ กล่าว

ไปรษณีย์ไทยย้ำมาตรฐานความปลอดภัย เดินหน้าคัดกรอง “สิ่งของต้องห้าม” ก่อนส่งออกต่างประเทศ

กรุงเทพฯ 30 มิถุนายน 2568 - ไปรษณีย์ไทยยืนยันจุดยืน “ปลอดภัย ถูกกฎหมาย ส่งได้ทั่วโลก” เดินหน้ารณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ใช้บริการเกี่ยวกับ “สิ่งของที่งดรับฝาก” โดยเฉพาะการส่งออกระหว่างประเทศ ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของประเทศปลายทางอย่างเคร่งครัด
  ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการเป็นหน่วยงานหลักด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ ไปรษณีย์ไทยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วไทย ทั่วโลก บุรุษไปรษณีย์ เทคโนโลยี และการมุ่งเน้นคุณภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรและสังคม  ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย จึงมีมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังสิ่งของต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และรักษามาตรฐานการให้บริการระหว่างประเทศ
ตัวอย่างสิ่งของที่งดรับฝากอย่างชัดเจน ได้แก่:
- สิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน วัตถุระเบิด สื่อลามกอนาจาร
- สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น สินค้าปลอมแปลง ลอกเลียนแบบแบรนด์
- สารเคมีหรือวัตถุอันตราย เช่น สีทินเนอร์ สารไวไฟ แบตเตอรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน
  ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ “สิ่งของต้องห้ามในการฝากส่ง” และสนับสนุนการขนส่งระหว่างประเทศที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และโปร่งใสทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการทุกท่าน ตรวจสอบรายการสิ่งของก่อนการจัดส่ง พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยในระบบขนส่งและคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของบริการไปรษณีย์ไทยในระดับสากล

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader
ขออภัยครับ

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

}