_660a0f35a2f49.jpg)
ส่งของไปสหภาพยุโรปต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม EU VAT
การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ด้านศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม
VAT
รัฐบาลในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปได้เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับธุรกิจ
Cross Border e-Commerce
ให้ผู้ขายสินค้านอกสหภาพยุโรปที่ขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปใช้เพื่อสร้างความเท่าเทียม
ในการแข่งขันของธุรกิจ โดยสินค้าเชิงพาณิชย์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป ที่มูลค่าไม่เกิน 150 ยูโรจะต้องถูก
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ด้วยเช่นกัน
โดยผู้ขายสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการขาย / จัดส่งสินค้าทางไกลสามารถดำเนินการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ล่วงหน้าผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS) ได้ ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้น
เพื่อรองรับการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT โดยตรง
ให้ผู้ขายสินค้านอกสหภาพยุโรปที่ขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปใช้เพื่อสร้างความเท่าเทียม
ในการแข่งขันของธุรกิจ โดยสินค้าเชิงพาณิชย์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป ที่มูลค่าไม่เกิน 150 ยูโรจะต้องถูก
เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ด้วยเช่นกัน
โดยผู้ขายสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการขาย / จัดส่งสินค้าทางไกลสามารถดำเนินการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ล่วงหน้าผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS) ได้ ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้น
เพื่อรองรับการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT โดยตรง
กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปประกอบด้วยประเทศใดบ้าง :
กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย โครเอเชีย ไซปรัส
สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี
ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์
โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน และสวีเดน
จะถูกเรียกเก็บค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ทุกชิ้น
จะถูกเรียกเก็บค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ทุกชิ้น
ระบบ IOSS คืออะไร :
ระบบ Import One-Stop Shop (IOSS) คือ ระบบทางเลือกที่สหภาพยุโรปได้แนะนำให้ผู้ขายสินค้านอกสหภาพยุโรปและขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปใช้ เพื่อช่วยลดความซับซ้อนด้านการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ที่จะเกิดกับผู้ขายอีคอมเมิร์ซ e-Commerce ที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรปจะต้องมอบหมายให้ตัวแทนที่รับดำเนินการ ลงทะเบียนระบบ IOSS ในนามของตนเพื่อเป็นตัวกลางในการดำเนินการทาง นิติกรรมด้านการเงินและภาษีกับหน่วยงานภาครัฐของประเทศในสหภาพยุโรป โดยผู้ขายจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับตัวแทนตามที่ตกลงกัน เว้นแต่ผู้ขายจะมีสาขาจัดตั้งขึ้นในสหภาพยุโรปประเทศใดก็ได้ จึงจะสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่ต้องผ่านตัวแทน เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ขายเรียกเก็บจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานด้านภาษีในประเทศปลายทางเอง เมื่อผ่านการลงทะเบียนแล้วผู้ขายจะได้รับหมายเลข IOSS และเมื่อมีการฝากส่งสิ่งของไปยังปลายทางยุโรป ผู้ขายจะต้องแจ้งหมายเลข IOSS ให้ผู้ขนส่ง/ผู้ดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากรทราบทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแจ้งให้ประเทศปลายทางทราบ โดยผู้ขายควรเก็บรักษาข้อมูลหมายเลข IOSS เป็นความลับและไม่ควรเปิดเผยหมายเลข IOSS ให้บุคคลทั่วไปทราบ เพื่อป้องกันผู้อื่นละเมิดสวมสิทธิ์หรือนำหมายเลขดังกล่าวไปใช้ในทางมิชอบ
ผู้ใช้บริการต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนส่งของไปสหภาพยุโรป
ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS):
ผู้ใช้บริการต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนส่งของไปสหภาพยุโรป
ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS):
1.1 ผู้ใช้บริการที่ควรลงทะเบียนชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่มVAT ล่วงหน้า ผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS) โดยผู้ประสงค์ลงทะเบียนจำเป็นต้องดำเนินการลงทะเบียนระบบ IOSS ผ่านตัวแทนที่รับดำเนินการเท่านั้นรายละเอียดเกี่ยวกับระบบ IOSS (โปรดศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ https://ec.europa.eu/taxation_customs/business/vat/ioss_en)
1.2 ก่อนใช้บริการส่งสินค้าที่ไปรษณีย์ไทย โปรดสร้างใบจ่าหน้าออนไลน์ผ่าน http://dpostinter.thailandpost.com พร้อมกรอกหมายเลข IOSS Number ให้เรียบร้อย(หมายเลข IOSS Number จะถูกส่งผ่านระบบไม่ปรากฏบนใบจ่าหน้า)
1.3 เลือกใช้บริการได้ตามความเหมาะสม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
2.ผู้ใช้บริการทั่วไป หรือร้านค้าออนไลน์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบ Import One Stop Shop (IOSS):
2.1 สามารถจัดส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศได้ตามปกติ
2.2 แจ้งผู้รับปลายทางเรื่องการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม VATรวมทั้งค่าธรรมเนียม (ที่การไปรษณีย์/ศุลกากรปลายทางเรียกเก็บ) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจทำให้ผู้รับได้รับสิ่งของล่าช้าผู้รับปลายทางต้องดำเนินการชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ก่อน การไปรษณีย์ปลายทางจึงจะไปนำจ่ายสิ่งของได้
2.3 กรอกแบบฟอร์มจ่าหน้า แบบฟอร์มศุลกากร และใบแสดงรายการสิ่งของที่ส่งให้ครบถ้วนชัดเจน
เพื่อให้ผู้รับปลายทางใช้ประกอบการประเมินภาษีของด่านศุลกากรประเทศปลายทาง
เนื่องจาก ประเทศปลายทางแต่ละประเทศมีกระบวนการ/ขั้นตอนการรับชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT
ที่แตกต่างกันดังนั้น ไปรษณีย์ไทยจึงไม่สามารถแจ้งรายละเอียดกระบวนการ/ขั้นตอนการชำระค่า
ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ณ ประเทศปลายทางให้ทราบได้
สำหรับบริการ Courier Post และบริการ Logispost
World ผู้ใช้บริการทุกรายจะต้องกรอก PROFORMA INVOICE เพื่อแสดงรายการสิ่งของที่ส่งอย่างชัดเจน(ระบุค่าเงินเป็น USD) โดยไม่ต้องสร้างใบจ่าหน้าออนไลน์ผ่าน http://dpostinter.thailandpost.com สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
PROFORMA
INVOICE(คลิก) หรือกรอก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ใช้บริการได้
ตัวอย่างการกรอกใบ PROFPMA INVOICE
อัตราการเรียกเก็บค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ของแต่ละประเทศ :
ตัวอย่างการกรอก PROFORMA INVOICE.pdf 