ไปรษณีย์ไทย

1. ลำดับการประมูลชิ้นงาน จัดลำดับหรือเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมในวันประมูล
2. การเพิ่มราคา ขั้นละ 2,000 บาท
3. การประมูลเริ่มต้นเมื่อนายประมูล แจ้งราคาเริ่มต้น ผู้ประมูลสามารถทำการเสนอขานรับราคาขั้นต่ำ หรือ ขานราคาได้ตามความพึงพอใจ 
4. การประมูลโดยการยกป้ายประจำตัว 1 ครั้ง หมายถึงการเพิ่มราคาขั้นต่ำ 1 ขั้นราคาเสมอ 
5. การประมูลโดยทางวาจา โดยการยกป้ายประจำตัวและขานราคาตามความพึงพอใจและไม่น้อยกว่าราคาขั้นต่ำ
6. หากมีการยกป้ายเพื่อเสนอราคาพร้อมกันแต่ไม่มีผู้ขานราคา เป็นสิทธิขาดของนายประมูลที่จะพิจารณาเลือกผู้ใดก่อน เว้นแต่มีผู้ขานราคามากกว่าราคาขั้นต่ำ จะให้สิทธิผู้ขานราคาที่สูงกว่า
7. เมื่อไม่มีผู้ประมูลแข่งขันเสนอราคาเพิ่ม นายประมูลจะทำการขานราคาสูงสุด 3 ครั้ง หากไม่มีผู้ประมูลใดเสนอราคาระหว่างนั้น จะเคาะค้อนปิดประมูล และนายประมูลขานราคาสูงสุดและหมายเลขป้ายของผู้ชนะการประมูลโดยจะถือว่าผู้เสนอราคาสูงสุด ณ ขณะนั้นเป็นผู้ชนะ  
8. หากชิ้นงานใดไม่มีการเสนอราคาเพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้น นายประมูลจะขออนุมัติจาก ประธานการประมูล เพื่อดำเนินการประมูลชิ้นงานอื่น หรือ จบการประมูล
9. ปณท ขอสงวนสิทธิ กรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกฏการประมูล หรือ หยุดพัก รวมถึง ยกเลิก การประมูล

ผู้ชนะการประมูลต้องชำระราคาสำหรับชิ้นงานที่ชนะการประมูลเท่ากับ “ราคาเสนอที่ชนะการประมูล” รวมกับ “ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%”

การประมูลจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อการเสนอราคา โดยผู้ประสงค์จะเข้าร่วมการประมูลต้องลงทะเบียนด้วยตนเอง ณ สถานที่ประมูล  วันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 10:00 - 13:30 น. (ใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด และเอกสารสำเนาบัญชีเงินฝาก 1 ชุด เพื่อใช้ในการคืนเงินมัดจำ)

1. ลงทะเบียน 
2. วางเงินมัดจำเป็นเงิน 20,000 บาท โดยชำระด้วย เงินสด แคชเชียร์เช็ค หรือ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาไปรษณีย์ไทย เลขบัญชี 980-0-12954-5 
3. รับป้ายหมายเลขเข้าประมูล

ไปรษณีย์ไทย จะดำเนินการคืนเงินมัดจำผู้เข้าประมูลที่ไม่ชนะการประมูลเข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ หลังจบการประมูลภายใน 10 วันทำการ และ คืนเงินมัดจำให้กับผู้ชนะการประมูล ภายใน 10 วันทำการ นับจากวันที่ชำระเงินค่าธรรมเนียมการประมูลครบถ้วนแล้ว

1. ผู้ชนะการประมูล ต้องนำเงินชำระเต็มจำนวนของราคาที่ชนะการประมูลพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยไม่หักเงินมัดจำออกจากยอดที่ต้องชำระให้เสร็จภายใน 7 วันนับแต่วันประมูล  
2. ในกรณีที่ผู้ประมูลไม่สามารถชำระเงินได้ภายในกำหนดเวลา 7 วัน สามารถยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงิน ซึ่งต้องระบุเหตุผลและความจำเป็น ไปรษณีย์ไทยจะขยายให้อีกตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้  ไม่เกิน 30 วัน โดยมีค่าปรับ วันละ 1% ของราคาที่ชนะการประมูลจนถึงวันที่รับชิ้นงาน และไม่ว่ากรณีใดๆ จะไม่มีการขยายเวลาชำระเงินให้อีก หากไม่นำเงินมาชำระให้เสร็จภายในกำหนดดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยจะริบเงินมัดจำที่วางไว้
3. ผู้ชนะการประมูลสามารถรับชิ้นงานได้เมื่อการชำระเงินตามจำนวนเรียบร้อยแล้วเท่านั้น โดยสามารถติดต่อขอรับชิ้นงานได้ที่อาคารไปรษณีย์กลาง (บางรัก) ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2566 ในวันทำการจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 ยกเว้นวันหยุดราชการ ติดต่อขอรับชิ้นงานได้เวลา 10:00 - 15:00 น. 
4. ผู้ชนะการประมูลชำระเงินครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการบรรจุหีบห่อและขนส่งชิ้นงานออกจากสถานที่ทำการประมูลเอง 
5. หากผู้ชนะการประมูลไม่ดำเนินการติดต่อรับชิ้นงานภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน จะมีค่าปรับ วันละ 1% ของราคาที่ชนะการประมูล และหากเกิน 30 วัน ชิ้นงานดังกล่าวจะถือว่าเป็น “กรรมสิทธิ์ของไปรษณีย์ไทย” โดยไม่มีการคืนเงินทั้งหมด