ไปรษณีย์ไทย

(10 มกราคม 2560) - บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เผยผลประกอบการปี 2559 ด้วยรายได้กว่าสองหมื่นห้าพันล้านบาท กำไรสุทธิเกือบสามพันห้าร้อยล้านบาท พร้อมปักธงผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมในภูมิภาคอาเซียน ชูนโยบาย POST Excellence เดินหน้าสร้างความเป็นเลิศทุกกระบวนการทำงาน ยกระดับการให้บริการเพื่อคนไทยและประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ไปรษณีย์ไทย เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิทัล” พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้กับระบบงานไปรษณีย์ทุกขั้นตอนมากยิ่งขึ้น ตอบสนองยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0”

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ในปี 2559 ว่า “ผลการดำเนินงานในปี 2559 ไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวมกว่า 25,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งคือ 42 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธุรกิจบริการไปรษณียภัณฑ์มีสัดส่วนรายได้ 37 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจบริการระหว่างประเทศมีรายได้ 14 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจค้าปลีกและการเงิน 6 เปอร์เซ็นต์ พร้อมระบุเป้าหมายรายได้ของปี 2560 ว่าจะอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท และประมาณการผลกำไรสุทธิประมาณ 3,300 ล้านบาท

นางสมร กล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางการดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยในปี 2560 ว่า โดยในปี 2560 จะมุ่งเน้น “ไปรษณีย์ไทย...เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิทัล” เพื่อให้บริการไปรษณีย์มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce และกลุ่ม Start Up ที่ปัจจุบันมีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้นโยบาย “POST Excellence” พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอนเพื่อรองรับนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” สร้างคุณภาพมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศรอบด้าน ประกอบด้วย P - Product and Service มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ O - Operation ปรับปรุงและยกระดับระบบการการปฏิบัติการให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง S - Sustainability เดินหน้าพัฒนาองค์กรให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรปลอดทุจริต สร้างการเติบโตอย่างสมดุลร่วมกับชุมชน สังคมและประเทศชาติไปพร้อมกัน T - Team Work มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีมผ่านการพัฒนาบุคลากรทั่วประเทศให้มีคุณภาพและพร้อมให้บริการที่เป็นเลิศ 

พร้อมกันนี้ ยังได้เร่งพัฒนาบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสามารถผลักดันภาคธุรกิจ e-Commerce และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยกรอบแนวคิด 5D & 2S ดังนี้ Digital Product & Service ขยายการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้า e-Commerce ให้สามารถบริการฝากส่งได้สะดวกและง่ายขึ้นผ่านบริการใหม่ๆ  อาทิ พร้อมโพสต์ (Prompt Post) แอพพลิเคชันจัดทำระบบฝากส่งสิ่งของล่วงหน้า Pre Load  บริการเตรียมการฝากส่งทางอินเทอร์เน็ตสำหรับกลุ่มธุรกิจ e-Commerce กล่องพร้อมส่ง กล่องเหมาจ่ายสุดสะดวก Digital Operation นำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว พร้อมพัฒนาระบบปฏิบัติการนำจ่ายให้พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการได้ตรงความต้องการมากขึ้น อาทิ เครื่องเอพีเอ็ม (Automatic Post Machine) ให้บริการรับฝากอัตโนมัติ  เซมเดย์โพสต์ (Same Day Post) บริการรับ-ส่งสิ่งของ/สินค้าด่วน

ที่มีถึงกันในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในวันเดียว สำหรับกลุ่มลูกค้า e-Commerce แมสเซนเจอร์โพสต์ (Messenger Post) 

แอพพลิเคชันสำหรับบริการส่งเอกสารหรือสิ่งของเร่งด่วน และรับสินค้าเพื่อฝากส่งเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ และถ้าต้องการรับสิ่งของแบบเร่งด่วน ก็สามารถใช้บริการ iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ รับพัสดุสะดวกง่าย เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย หรือการรับสิ่งของ ณ จุดนำจ่าย (Drop Station) ที่อยู่ใกล้บ้านที่ไปรษณีย์ไทยได้ตกลงเอาไว้ Digital Infrastructure พัฒนาระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยีดิจิทัล และเครื่องมือ/อุปกรณ์การให้บริการและการทำงาน ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาบริการและกระบวนการทำงานให้ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ 

Digital Communication & Experience พัฒนาระบบการสื่อสารทั้งภายในและภายในอกองค์กร ด้วยวิธีการสื่อสารรูปแบบใหม่ให้เข้ากับพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัล เพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีต่อองค์กร Digital People with Digital Mindset พัฒนาองค์ความรู้ให้กับบุคลากรปรับตัวให้ทันกับโลกยุคดิจิทัล Service Touch Point ส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด และ Social Responsibility นอกจากการบริการที่มีมาตรฐานเป็นเลิศแล้ว ไปรษณีย์ไทย ยังต้องเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งด้านจริยธรรมและความโปร่งใส และร่วมสร้างการเติบโตอย่างสมดุลกับชุมชน สังคมและประเทศชาติไปพร้อมกัน อาทิ การใช้เครือข่ายไปรษณีย์ไทยช่วยเหลือสังคมไทย การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ของเยาวชนไทย ให้รอบรู้ ด้วยการเปิดโลกกว้าง ผ่านเรื่องราวบนดวงแสตมป์ และใช้เครือข่ายเครือข่ายสนับสนุนให้ธุรกิจชุมชนในท้องถิ่น ให้เติบโต มั่นคง และยั่งยืน ด้วยโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข เป็นต้น 

“ไปรษณีย์ไทย...เชื่อมั่นว่าการยกระดับมาตรฐานคุณภาพบริการ 4 มิติตามนโยบาย POST Excellence อย่างต่อเนื่องในปีนี้ จะสามารถตอบสนองนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาล ด้วยนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ที่รองรับความต้องการของคนไทยในยุคดิจิทัล และสามารถทำให้ไปรษณีย์ไทยเติบโตด้วยผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และโลจิสติกส์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เป็นเครือข่ายการขนส่งของคนไทยและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตลอดไป” นางสมรกล่าวสรุป