
ไปรษณีย์ไทย ประกาศนโยบายความเป็นเลิศด้านคุณภาพบริการ พร้อมเดินหน้าสู่ “องค์กรปลอดทุจริต”
บริษัท
ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ประกาศนโยบายด้านมาตรฐานคุณภาพบริการ พร้อมตอบสนอง ความต้องการของประชาชนคนไทยทุกรูปแบบ พร้อมขานรับนโยบายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล
เดินหน้าสู่การเป็น “องค์กรปลอดทุจริต” เพื่อให้ไปรษณีย์ไทยเป็นเครือข่ายคุณภาพสร้างการเติบโตร่วมกับชุมชน
สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน
พลเอก สาธิต พิธรัตน์
ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ในปี 2559 นั้น ได้มอบนโยบายการดำเนินงาน
เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการเป็นองค์กรที่ให้บริการด้วยมาตรฐานคุณภาพ และจำเป็นต้องพัฒนาในทุกๆ
ด้าน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ โดยมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย ได้มีการพัฒนาระบบเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติใหม่
เพื่อรองรับงานบริการไปรษณีย์
บริการทางการเงินและการสั่งซื้อสินค้าสำหรับลูกค้ารายใหญ่ นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยครอบคลุมการปฏิบัติงานทั้งระบบมาใช้ในงานไปรษณีย์มากขึ้น
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในปัจจุบัน พร้อมยกระดับคุณภาพการบริการเพื่อป้องกันหรือลดความเสียหายของสิ่งของที่ฝากส่งด้วยการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการทำงานของระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย
และพัฒนาอุปกรณ์ในการขนส่งเพื่อป้องกันสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ชำรุดเสียหายในระหว่างการขนส่งทางไปรษณีย์อีกทางหนึ่ง
ตลอดจนให้ความสำคัญกับกระบวนการรักษาความปลอดภัยต่อสิ่งของฝากส่งและการป้องกันการขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศชาติด้วยการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(CCTV) ณ ที่ทำการไปรษณีย์
และขอความร่วมมือผู้ใช้บริการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนในการใช้บริการฝากส่งสิ่งของด้วย
นอกจากนี้
ยังสนับสนุนให้ใช้เครือข่ายขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
รองรับทุกความต้องการของคนไทย และเข้าไปมีส่วนร่วมในภารกิจเพื่อชุมชน
สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ของเยาวชนไทย ผ่านเรื่องราวบนดวงแสตมป์ มีกิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์ที่พาเยาวชนไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ
ที่ปรากฏในแสตมป์ ริเริ่มโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่น เติบโตอย่างยั่งยืน
เช่น กลุ่มข้าวฮางบ้านกุดจิก อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ลำไยอบแห้งของกลุ่มสหกรณ์ประตูป่า
จ.ลำพูน และช่วยเหลือเกษตรกรทุกภาคของไทยให้มีโอกาสในการกระจายผลผลิตไปสู่ประชาชนคนไทยมากขึ้น
ด้วยการส่งผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ส้มสายน้ำผึ้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ลำไยพันธุ์อีดอ จ.ลำพูน
มะม่วงน้ำดอกไม้ จ.ฉะเชิงเทรา ลองกองตันหยงมัส ทุเรียนหลงลับแล จ.อุตรดิตถ์
เป็นต้น
สำหรับนโยบายป้องกันและปราบปรามทุจริตนั้น
ไปรษณีย์ไทย ตระหนักและให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามกฎหมาย
พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีในการทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต
โดยเน้นย้ำให้ทุกกระบวนการปฏิบัติงานต้องดำเนินไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือหลักการและระเบียบข้อบังคับที่ไปรษณีย์ไทยกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
ซึ่งต้องเป็นไปตามนโยบายของการกำกับดูแลกิจการที่ดีในหน่วยงาน (Good Governance)
โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานธุรกิจอย่างมีคุณธรรม
โปร่งใสและน่าเชื่อถือต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตด้วย
“ไปรษณีย์ไทย จะต้องเดินหน้าพัฒนาบริการให้รองรับกับความต้องการของคนไทย
รวมไปถึงระบบเครือข่าย การขนส่งและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ
ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ
และผู้ประกอบธุรกิจในทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และการให้บริการ โลจิสติกส์แบบครบวงจรในอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ”
พลเอก สาธิต กล่าวในท้ายสุด