_6881db956fe59.jpg)
_684691e4b2bd1.jpg)
_676a7a9678f25.jpg)
_660a0f35a2f49.jpg)
“เบื้องหลังภารกิจส่งพัสดุใจ” ส่องชีวิต 3 พี่ไปรฯ ตัวจริง เส้นทางส่งของ บนดอย – ข้ามเกาะ – พื้นที่สุดหิน ไม่ว่าไกลแค่ไหน…ก็ไปรฯ ถึง
หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวเชิงปรัชญาจีนโบราณที่ว่า “ทุกอาชีพสามารถสร้างขงจื๊อได้” คงไม่เกินความเป็นจริงเพราะลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะของคน เช่นเดียวกับพี่ไปรฯ หรือ บุรุษไปรษณีย์ ที่ไม่ต้องมีพลังวิเศษ แต่ก็เป็นฮีโร่ได้ วันนี้ไปรษณีย์ไทยขอพาเปิด สตอรี่การทำงานผ่านประสบการณ์จริงนอกจอของ 3 วีรบุรุษ ส่งด่วนตัวจริงกับ พี่ไปรฯ ไมตรี แห่งดอยวาวี พี่ไปรฯ บังดีน แห่งเกาะลิบง และพี่ไปรฯ ชาญ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ด้วยความทุ่มเทและเรื่องราวน่าประทับใจที่ถูกพูดถึงด้วยความชื่นชม
- "พี่ไปรฯ ไมตรี" วีรบุรุษดอยวาวี แม้ดินถล่มก็จะไปรฯ ส่งให้ถึงมือ
หากลองจินตนาการถึงพื้นที่อุดมสมบูรณ์แหล่งเพาะปลูกใบชา และกาแฟชั้นยอด นั่นคือภาพจำของ "ดอยวาวี" พื้นที่ห่างไกลบนภูเขาสูง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านกว่า 25 หมู่บ้าน เช่น บ้านวาวี บ้านเลาลี บ้านม้งกาล่า ในปัจจุบันมีผู้อาศัยอยู่บนดอยเป็นจำนวนมาก เสียงสะท้อนจาก "พี่ไปรฯ ไมตรี" ไปรษณีย์แม่สรวย อ.แม่สรวย ดอยวาวี จ.เชียงราย เล่าให้ฟังว่า “ปัจจุบันขนส่งและนำจ่ายพัสดุต่อวันเฉลี่ย 40 – 100 ชิ้น และมีหลายชิ้น ส่งมาจากลูกหลานชาวดอยที่ไปทำงานต่างประเทศอย่างประเทศจีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยปกติแล้ว จะนำจ่ายด้วยรถกระบะเพราะมีปริมาณชิ้นงานมาก และมีความคุ้นเคยสนิทสนมกับชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างดี”
“พี่ไปรฯ ไมตรี” ไม่ใช่แค่ชื่อที่คนเรียกขานแต่คือจิตวิญญาณของพี่ไปรฯ ที่ทำหน้าที่สานสัมพันธ์ ที่ดีกับผู้คนในชุมชนด้วยความห่วงใย ใส่ใจ พี่ไปรฯ ไมตรี ยังเล่าว่า “ถึงแม้ช่วงหน้าฝนจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์หน้าดินสไลด์หรือดินถล่ม กิ่งไม้หักขวางเส้นทางการขนส่ง ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะต้องการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด “ยิ่งเป็นสิ่งของสำคัญอย่างยารักษาโรคที่จ่าหน้าส่งตรงมาจากโรงพยาบาล เรายิ่งต้องพิถีพิถันในการขนส่งให้ถึงมือผู้รับโดยเร็วที่สุด เพราะผู้รับปลายทางที่เป็นผู้ป่วยก็รอคอยอยู่เช่นกัน”
- พี่ไปรฯ บังดีน วีรบุรุษแห่งเกาะลิบง ฝ่าคลื่น ลัดสวนยาง ส่งความหวังของทั้งชุมชนให้ถึงมือ
หากได้รู้จัก “พี่ไปรฯ บังดีน นพดล” แห่งไปรษณีย์อนุญาตบนเกาะลิบง จ.ตรัง สิ่งที่พี่ไปรฯ บังดีนทำอยู่ทุกวันไม่ใช่แค่การส่งของ แต่คือภารกิจแห่งหัวใจ ที่ต้องลุยคลื่น ฝ่าสวนยางแถมยังจำชื่อผู้คนได้ทั่วเกาะ เพื่อให้พัสดุทุกชิ้นถึงมือผู้รับอย่างแม่นยำ
การทำงานของพี่ไปรฯ บังดีนนั้นไม่เหมือนใคร ด้วยเส้นทางนำจ่ายที่ต้องนั่งเรือข้ามฟาก วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาราวเที่ยวละครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ลำเลียงส่งของขึ้นเรือแล้วต่อด้วยรถมอเตอร์ไซค์ซาเล้ง ซึ่งบนเกาะเป็นถนนลูกรังและต้องลัดเลาะตามสวนยาง บางจุดไม่มีถนนให้ผ่าน ต้องเข็นรถหรือเดินเท้าลุยโคลน เพื่อนำจ่ายพัสดุให้ถึงมือลูกบ้านกว่า 700 หลังคาเรือนที่อยู่บนเกาะแห่งนี้ ความลำบากเหล่านี้ พี่ไปรฯ บังดีนเผชิญมาอย่างไม่เคยย่อท้อ จนกลายเป็นที่รู้จักและไว้วางใจของชาวเกาะทุกครัวเรือน นอกจากนี้ความสามารถพิเศษของเขาคือ จำชื่อและเสียงของทุกคนบนเกาะได้ เมื่อเห็นกล่องพัสดุชื่อใคร จะรู้ได้ทันทีว่าอยู่บ้านไหน เสียงของผู้รับที่โทรมาสอบถามสิ่งของก็จำได้ไม่เคยพลาด
“หนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม คือการนำจ่ายพัสดุจากแม่คนหนึ่งส่งถึงลูกที่เรียนหนังสืออยู่ในตัวเกาะ กล่องพัสดุใบไม่ใหญ่มากและมีจดหมายแนบมาด้วย เมื่อนำส่งสำเร็จเด็กที่ได้รับก็ยิ้มดีใจมาก เห็นได้ว่านี่เป็นมากกว่าการส่งสิ่งของแต่คือการส่งความรักจากแม่ถึงลูกอีกด้วย”
- พี่ไปรฯ ชาญ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยากับภารกิจการขนส่งสุดสะเทินน้ำสะเทินบก
ภารกิจสะเทินน้ำสะเทินบกของ พี่ไปรฯ ชาญ เพียรทอง ไปรษณีย์ปากเกร็ด ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้คนสองฝั่งน้ำเข้าไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่ทางบกแต่รวมถึงทางน้ำด้วย เพื่อส่งมอบสิ่งของให้กับครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ พี่ไปรฯ ชาญ เล่าถึงความใส่ใจในภารกิจนี้ว่า “การนำจ่ายทางเรือเราต้องดูแลสิ่งของทุกชิ้น อย่างเต็มที่และระมัดระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายของพัสดุระหว่างการขนส่ง และต้องห่อหุ้มถุงพลาสติกอย่างแน่นหนา แม้บางครั้งอาจพบปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารกับผู้รับ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะจำที่อยู่ ของผู้คนละแวกนี้ได้อย่างแม่นยำ”
คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นว่าสำหรับเขาแล้วนี่ไม่ใช่แค่งาน แต่คือความรับผิดชอบและความผูกพันกับชุมชนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทำให้พี่ไปรฯ ชาญ ไม่ใช่แค่บุรุษไปรษณีย์ แต่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความไว้วางใจ ที่นำพาทั้งสิ่งของและความสุขไปส่งถึงหน้าประตูบ้านอย่างแท้จริง
และนี่คือเรื่องจริงนอกจอจากประสบการณ์ตรงของ “บุรุษไปรษณีย์” ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจ แม้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เส้นทางที่ยากลำบาก แต่สิ่งที่ยังทำให้ “พี่ไปรฯ” ยืนหยัด ในหน้าที่นี้ต่อไป คือ “หัวใจของความเป็นจิตอาสา” ความผูกพันกับผู้คนในพื้นที่ การส่วนหนึ่งของกันและกัน เพราะงานไปรษณีย์ไม่ได้มีแค่ปลายทางเป็นผู้รับ แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ ความไว้ใจและความหมายที่สะท้อนสโลแกนของไปรษณีย์ไทยได้อย่างงดงาม “Carry Relationship, Deliver Success” ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ…ด้วยใจ
