
ชี้เป้า 5 เปลี่ยน! กลยุทธ์ปัดฝุ่นแบรนด์เก่าให้เก๋าบนออนไลน์
ลูกค้าตีจากเพราะช่องว่างระหว่างแบรนด์มีอยู่จริง โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่อยู่มานานและคงทุกอย่างในปัจจุบันเอาไว้เป๊ะๆ เหมือนใน Day 1 ยิ่งควรรีบสลัดความเก่าและจุดที่ทำให้ไม่กลมกลืนกับยุคสมัยใหม่ให้หมดไป
โดยมี 3 ปัจจัยเป็นตัวบอกให้รู้ว่าตอนนี้แหละใช่เวลาที่แบรนด์ควรลุกขึ้นมาเขย่าตัวเอง
• ตกยุค ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูไม่ทันสมัยในใจลูกค้า ดูเข้าถึงยาก เหมือนสื่อสารกันคนละภาษา
• ไม่ตรงความต้องการ สิ่งที่แบรนด์ทำหรือนำเสนอไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่
• อยากได้ลูกค้าใหม่ หากต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ หรือขยายฐานลูกค้า แบรนด์ควรปรับสไตล์หรือภาพลักษณ์ให้ดูสดใหม่และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
5 วิธีเปลี่ยนความ “เก่า” ให้ “เก๋าสุดๆ”
การปรับลุคเพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความรู้สึกใหม่ๆ เกี่ยวกับแบรนด์ และดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาตื่นเต้นกับแบรนด์อีกครั้ง ทำได้ไม่ยาก แค่เปลี่ยนให้ได้ดังนี้
เปลี่ยนเรื่องเล็กลดอายุ
แบรนด์สามารถลดอายุได้แค่รู้จักปรับองค์ประกอบต่างๆ ให้ดูทันสมัยมากขึ้น เช่น สีที่ใช้ สามารถอัปเดตเทรนด์สีประจำปีหรือสีที่กำลังมาแรงได้จากเว็บไซต์ Pantone หรือฟอนต์ตัวอักษรที่ใช้ ควรเลือกให้อ่านง่าย สวยงาม และเหมาะสม รวมถึงโลโก้สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ให้เข้ากับยุคสมัยได้มากขึ้น
เปลี่ยนภาพจำของสินค้า
ตัวสินค้าหรือแพคเกจจิ้งช่วยทำให้แบรนด์ดูสดใหม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การออกคอลเล็กชันใหม่ การปรับสินค้าให้เข้ากับเทรนด์รักษ์โลก เปลี่ยนเป็นแพคเกจจิ้งจากกระดาษ ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ลงไปบนตัวสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ เช่น มี QR Code ให้ลูกค้าสแกน เพื่อเข้าถึงข้อมูลของสินค้าหรือร่วมเล่นเกมสนุกๆ แลกของรางวัล เป็นต้น
เปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นมิตร
การปรับดีไซน์ของเว็บไซต์เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยได้ เช่น อัปเดตรูปภาพผลิตภัณฑ์ยอดนิยมให้ดูสวยงามและเป็นปัจจุบันมากขึ้น เพิ่มวิดีโอเพื่อแสดงภาพสินค้าให้มองเห็นทุกมุมได้มากขึ้น มีขั้นตอนการชำระเงินที่ง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ให้โหลดได้เร็วขึ้น หรือติดตั้ง Chatbot ไว้คอยให้บริการได้ทุกเวลา วิธีเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้บนช่องทางโซเชียลมีเดียได้เช่นกัน
เปลี่ยนช่องทางใหม่เข้าหาลูกค้า
อีกหนึ่งวิธีเพิ่มความสดใหม่ให้แบรนด์คือ การขยายช่องทางการตลาดใหม่ เช่น หากแบรนด์มีเพียงเว็บไซต์หรือ Facebook ควรปรับตัวโดยการขยายตัวตนเข้าสู่โซเชียลมีเดียใหม่ๆ ที่มีลูกค้ายุคใหม่อยู่ในนั้น เช่น TikTok, Instagram, Twitter หรือการทำช่องบน YouTube
เปลี่ยนโทนปรับคอนเทนต์
สุดท้ายการสื่อสารกับลูกค้าด้วยคอนเทนต์แบบสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้ากับลูกค้ายุคใหม่ได้ แบรนด์ควรกลับมาทบทวนถึงวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ อาจต้องเพิ่มความสดใหม่ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ หรือใช้การตัดต่อคลิปวิดีโอแบบสั้นๆ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ รวมถึงควรดูถึงเรื่องโทนเสียงและคำที่ใช้เวลาพูดคุยกับลูกค้าควรปรับให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น ใช้คำที่อยู่ในกระแสมาเพิ่มสีสันและการมีส่วนร่วม
เท่านี้การอยู่มานานก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางแบรนด์เก่าได้อีกต่อไป อยากย้อนวัยให้ดู 14 อีกครั้ง ลองเอากลยุทธ์ที่ว่านี้ไปทำกันดู