
ไปรษณีย์ไทย ตรึงราคาค่าบริการจดหมายในประเทศ 3 บาท และมีอัตราพิเศษสำหรับสำหรับภาคเอกชนที่ส่งจำนวนมาก ยืนยันการปรับอัตราฯ ไม่กระทบผู้ใช้บริการรายย่อย/ประชาชน
กรุงเทพฯ
27
เมษายน
2565 – บริษัท
ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้รับการอนุมัติปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์
หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจ โดยยังคงอัตราค่าบริการพิกัดแรกน้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม เช่นเดิม และผู้ใช้บริการที่ฝากส่งเอกสารในปริมาณมาก
จะมีส่วนลดพิเศษ รวมถึงพัฒนาระบบการจัดการด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร
หรือดิจิทัลเมล์
พร้อมเป็นตัวกลางในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ
และภาคประชาชนที่สอดรับกับยุคสมัย
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า
ตามที่มีมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาและเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์
ตามร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรนั้น ถือเป็นการปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ
18 ปี ของการดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นเพียงการขึ้นราคาเฉพาะการส่งจดหมายและเอกสารสำคัญ
และจะปรับเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้น โดยอัตราค่าบริการพิกัดแรก น้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ซึ่งเป็นพิกัดน้ำหนักที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้บริการ ยังคงไว้ที่ 3 บาทเช่นเดิม ส่วนเอกสารหรือจดหมายที่มีน้ำหนักเกินจากที่กำหนดจำเป็นต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจและการแบกรับต้นทุน
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภาคธุรกิจซึ่งฝากส่งเอกสารและจดหมายกับไปรษณีย์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง
หรือการส่งปริมาณมาก ๆ จะมีการมอบส่วนลดในอัตราพิเศษ
นอกจากนี้ เพื่อให้การส่งจดหมายและเอกสารสำคัญเกิดประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ไปรษณีย์ไทย ได้พัฒนาบริการรองรับและเป็นทางเลือก
คือ การจัดการด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร
เพิ่มช่องทางการส่งเอกสารที่สะดวกรวดเร็วขึ้น การเป็นตัวกลางในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างภาครัฐ
ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ให้กับเอกสารสำคัญของหน่วยงาน/องค์กร
เพื่อให้สามารถยืนยันได้ว่าเอกสารนั้นเป็นตัวจริง โดยเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ
ปลอดภัย ได้มาตรฐาน รองรับการจัดการเอกสารในยุคดิจิทัล
ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้าเป็นพลังสำคัญ
สนับสนุนสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อเปิดทางให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือผู้ประกอบการ e-Commerce
พัฒนาคุณภาพบริการ
EMS
ส่งด่วนทุกวัน สะดวกทุกวัน เพิ่มโปรคุ้ม “EMS ลดทุกวัน” ช่วยเซฟค่าส่งได้มากขึ้น การเข้ารับฝากสิ่งของถึงบ้าน โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องออกจากบ้าน การพัฒนาระบบดิจิทัลให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวันของผู้ค้าขายและประชาชน เช่น การเพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ให้วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart.com แพลตฟอร์มออนไลน์
รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุดการสนับสนุนสาธารณสุข
ส่งยาให้ผู้ป่วยถึงบ้าน โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด – 19 ตลอดจนการพัฒนาบริการอื่น
ๆ เพื่อให้คนไทยได้รับบริการที่ครอบคลุม และมีความต่อเนื่องในทุก ๆ วัน ดร.ดนันท์ กล่าวสรุป