
ไปรษณีย์ไทย ย้ำมาตรการ ‘สิ่งของต้องห้ามฝากส่ง’ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์ ชี้ ‘สิ่งมีชีวิต’ ห้ามส่ง หากตรวจพบดำเนินคดีแน่นอน
กรุงเทพฯ
20 กันยายน 2564 - บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพ
การส่งเต่าซูลคาตาผ่านระบบขนส่งพัสดุ ไปรษณีย์ไทยขอยืนยันว่าไม่ใช่การขนส่งผ่านระบบงานของไปรษณีย์ไทย
และจากที่มีการใช้ภาพประกอบเป็นภาพกล่องพัสดุของไปรษณีย์ไทยที่อาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดนั้น เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นในปี 2557 ซึ่งไปรษณีย์ไทยได้ชี้แจงย้ำมาตรการห้ามฝากส่งสิ่งมีชีวิตไปแล้ว
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยขอเน้นย้ำผู้ใช้บริการห้ามฝากส่ง
“สิ่งมีชีวิต” ผ่านเส้นทางไปรษณีย์ เนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำได้ และหากตรวจพบจะมีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
สำหรับสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์นั้น
มี 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. วัตถุลามกอนาจาร 4.
วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟทุกชนิด 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีสิ่งหุ้มห่อ 6. ธนบัตร และ
7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์
ดร.ดนันท์
สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยมีมาตรการความปลอดภัยและป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งมีชีวิตอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
โดยการฝากส่ง “สิ่งมีชีวิต” ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามฝากส่งในเส้นทางไปรษณีย์
ตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477
และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีมาตรการในการตรวจสอบ
ประกอบด้วย
การขอความร่วมมือให้ผู้ใช้บริการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งของการฝากส่ง
การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ
เพื่อให้สามารถตรวจสอบถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย
เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป
ตลอดจนการใช้เครื่องสแกนสิ่งของฝากส่งแบบเอ็กซเรย์ (X-ray) ณ
ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ
ก่อนทำการคัดแยกเพื่อส่งต่อสู่ระบบนำจ่าย
ทั้งนี้
ไปรษณีย์ไทย มุ่งเดินหน้าพัฒนาศักยภาพระบบงานไปรษณีย์
ที่ครอบคลุมและรอบด้านยิ่งขึ้น เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการ
และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการสูงสุด
เพื่อตอกย้ำศักยภาพการทำงานของไปรษณีย์ไทยในฐานะ “เพื่อนแท้ร่วมทาง” อย่างแท้จริง