_662f56f4d8fcd.jpg)
_660a0f35a2f49.jpg)
เปิดเหตุผลพรีเซ็นเตอร์ของไปรษณีย์ไทย ผ่านมุมมองภาพยนตร์สั้น “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ” สตอรี่แห่งความผูกพันระหว่างคนไทยและบุรุษไปรษณีย์ที่เป็นตัวตนของคนไปรษณีย์ไทย พร้อมสร้างปรากฎการณ์ 1 วัน 1 ล้านวิว
กลยุทธ์การใช้พรีเซ็นเตอร์ที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักเป็นหนึ่งในแรงดึงดูดที่สำคัญของแต่ละแบรนด์ และเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สะท้อนถึงคาแรคเตอร์ ตัวตนของสินค้าและการบริการได้ดีรูปแบบหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลายๆ ธุรกิจล้วนเลือกใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาช่วยสร้างชื่อของแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือสร้างภาพลักษณ์และแรงจูงใจให้กลุ่มผู้บริโภคเลือกซื้อหรือใช้บริการ รวมถึงสร้างความจงรักภักดีที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย หรือไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อการแข่งขันทางธุรกิจยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญ และมีการทุ่มงบท้าชนกันแบบที่ไม่มีใครยอมใคร
หนึ่งในสนามธุรกิจที่มีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก และมีการแข่งขันการใช้พรีเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้นคืออุตสาหกรรมการขนส่ง - โลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการบิน ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ ธุรกิจขนส่งพัสดุ ฯลฯ หลายแบรนด์ต่างมีการนำพรีเซ็นเตอร์มานำเสนอภาพลักษณ์ของธุรกิจ พร้อมดึงดูดกำลังซื้อจากผู้บริโภคแทบทั้งสิ้น และพบว่าผู้ขนส่งรายใหญ่อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” ไม่ได้เลือกใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อนำเสนอตัวตนของแบรนด์ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการเปิดตัวภาพยนตร์สั้นออนไลน์ “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ”สตอรี่แห่งสัมพันธภาพระหว่างผู้ใช้บริการและ บุรุษไปรษณีย์ไทยทุกคนที่เป็นตัวตนของคนไปรษณีย์ไทย นำมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดและภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่ได้เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ ศิลปิน-ดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง
ภาพยนตร์สั้นออนไลน์ “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ” นำเสนอความสัมพันธ์ของไปรษณีย์ไทยและคนไทยผ่านความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุรุษไปรษณีย์ ซึ่งมีเรื่องเล่าที่น่าประทับใจมากมายระหว่างทางในการนำจ่ายสิ่งของ โดยเรื่องราวทั้งหมดบอกเล่าถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นเรื่องจริงของบุรุษไปรษณีย์ เช่น พนักงาน 89 % เคยเจอจ่าหน้าซองแปลกๆ แต่ก็สามารถนำไปส่งได้อย่างถูกต้อง 95.7 % เคยฝ่าฝนไปส่งของ 63.3 % เคยถูกสุนัขกัด หรือแม้แต่กระทั่ง 61.1 % เคยทำงานจนละเมอท่องเลขที่บ้าน ทั้งนี้ เรื่องราวทั้งหมดใช้ข้อมูลจริงที่ทำแบบสำรวจจากบุรุษไปรษณีย์ถึง 20,000 คนทั่วประเทศ โดยสตอรี่เรื่องนี้ถือว่ามีความหมายสำหรับผู้ใช้บริการและผู้ปฏิบัติหน้าที่จริงอย่างบุรุษไปรษณีย์มากเลยทีเดียว
นอกเหนือจากนี้ หากใครที่ได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์สั้นออนไลน์ “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ”เชื่อว่าคงเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งและเหตุผลที่ทำไมไปรษณีย์ไทยไม่ใช้พรีเซ็นเตอร์ชื่อดัง หากแต่นำพนักงานตัวจริงมาเป็นตัวดำเนินเรื่องเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ทำให้รู้สึกถึงความใกล้ชิดและเข้าถึงได้ง่ายของคนไทยที่มีต่อบุรุษไปรษณีย์ ยิ่งไปกว่านั้นกลยุทธ์นี้ยังเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้สร้างภาพจำให้กับคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการสร้างภาพจำในใจ โดยเฉพาะหน้าที่สำคัญของการเป็นผู้รับส่งสิ่งของ ผู้ส่งต่อความรู้สึกดีๆ เพื่อเชื่อมโยงคนไทยให้เข้าถึงกันในทุกช่วงเวลา ตลอดจนการเน้นย้ำคุณภาพบริการของไปรษณีย์ไทยที่เป็นมากกว่า Delivery Man หรือผู้รับส่งของได้อย่างดีอีกด้วย
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่าบุรุษไปรษณีย์ทุกคนคือตัวตนของคนไปรษณีย์ไทยที่ไม่ใช่แค่พรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากทุกคนมีหน้าที่และจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการให้บริการที่ดีเป็นผู้ส่งต่อความสัมพันธ์ให้กับคนไทยในทุกพื้นที่ รวมถึงเป็นมากกว่าผู้รับ – ส่งสิ่งของ (More Than Mail) ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่ใช้บริการไปรษณีย์จะได้เห็นว่าบุรุษไปรษณีย์ของไทยเป็นได้ทั้งผู้ยื่นคะแนน หรือผลสอบ ผู้ยื่นกล่องของขวัญในวันเกิด การช่วยเหลือคนไทยในช่วงวิกฤต COVID – 19 หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ การพัฒนาและให้บุรุษไปรษณีย์เชื่อมต่อและสื่อสารกับคนไทยเป็นสิ่ง ที่ไปรษณีย์มุ่งเน้นมาอย่างต่อเนื่องและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ด้าน ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ผู้ช่วยอธิการบดี งานด้านสื่อสารองค์กร บริหารแบรนด์ และนิสิตเก่าสัมพันธ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด (ภาษาอังกฤษ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่าการสร้างการรับรู้หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นธุรกิจต่างๆ เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นตัวแทนของแบรนด์หรือธุรกิจนั้น ซึ่งในส่วนของไปรษณีย์ไทยที่มีภาพยนตร์สั้นออนไลน์ “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ”บอกเล่าเรื่องจริงของบุรุษไปรษณีย์ที่พยายามทำหน้าที่ส่งสิ่งของให้สำเร็จ ก็สื่อสารออกมาได้ในระดับที่ดี มีจุดมุ่งหมายที่ตรงไปตรงมาในเรื่องของการสร้างความผูกพันเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นการนำเรื่องจริงจากผลสำรวจของบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน ด้วยเทคนิค data – driven creativity มาใช้ถือว่าเป็นจุดเด่นและเป็นการแสดงความจริงใจของแบรนด์ที่ดี ซึ่งหลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ก็ต้องขอชื่นชมว่าไปรษณีย์ไทยเป็นแบรนด์ขนส่งและสื่อสารที่มีความทุ่มเท จริงใจ มีความเป็นมิตรกับทุกๆ บ้าน ซึ่งเป็นสัมพันธภาพระหว่างคนไทยและไปรษณีย์ไทยที่คงอยู่และจะมีอยู่ต่อไปอีกยาวนาน
เชื่อว่า “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ” เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าไปรษณีย์ไทยมีความมุ่งมั่นให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของคนไทยในช่วงตลอดระยะเวลา 137 ปีที่ผ่านมา และจะเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งความตั้งใจ ความประทับใจ และความผูกพันที่มีให้กันระหว่างไปรษณีย์ไทยและคนไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งล่าสุดกระแสดีเกินคาดได้สร้างปรากฎการณ์ 1 วัน 1 ล้านวิวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสามารถรับชมความประทับใจและความผูกพันผ่านภาพยนตร์สั้นออนไลน์ “ฝากไปรฯ ให้ถึงเธอ” ได้แล้วทาง https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=Y-SNGbFH4Ls หรือ เฟซบุ๊ก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
