
พลังน้ำใจคนไทยส่งหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศ ผ่านโครงการ “ไปรษณีย์ไทย ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” กว่า 2 ล้านกิโลกรัม
กรุงเทพฯ 1 มิถุนายน
2563 –
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ขอบคุณพลังน้ำใจคนไทยที่ร่วมกันส่งหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศผ่านโครงการ
“ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” โดยได้เริ่มต้นโครงการตั้งแต่วันที่
26 มีนาคม
และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งในระยะเวลากว่า 2 เดือน มีการส่งหน้ากากอนามัย ชุด PPE และอุปกรณ์ต่างๆ
ที่จำเป็นสำหรับบุคลากร ทางการแพทย์ไปถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศด้วยระบบงาน
EMS ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรี
รวมปริมาณการส่งกว่า 2 ล้านกิโลกรัม
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยเผยปริมาณพัสดุเข้าสู่ระบบของไปรษณีย์ในช่วงประเทศล็อคดาวน์
เพิ่มขึ้นวันละกว่า 60% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของการซื้อขายออนไลน์ระหว่างที่คนไทยอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ
COVID-19
พร้อมย้ำจุดยืนการเคียงคู่คนไทยในทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังขานรับนโยบายรัฐบาลในการจัดส่งหน้ากากอนามัย
ชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากหน่วยงานภาครัฐ
ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม
กองบัญชาการกองทัพไทย องค์การเภสัชกรรม สภากาชาดไทย เป็นต้น อีกทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ
เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ส่งคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออาหารให้
อสม. ทั่วประเทศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพจอีจัน และอีกหลายๆ หน่วยงาน ส่งความช่วยเหลือประเภทสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต
เช่น นมผงสำหรับเด็ก ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังบุคลากรทางการแพทย์
ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง และประชาชนทั่วประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม
2563 มีปริมาณธารน้ำใจจากคนไทยร่วมกันส่งหน้ากากอนามัย
อุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต
ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งตรงถึงทุกแห่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
รวมกว่า 2 ล้านกิโลกรัม
นายก่อกิจ
กล่าวเพิ่มว่า ไปรษณีย์ไทยขอขอบคุณคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและเลือกใช้บริการไปรษณีย์ไทย
โดยเราได้พัฒนาและยกระดับบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ
ทั้งกลุ่มอีคอมเมิร์ซ
หรือร้านค้าที่ได้รับผลกระทบและเปลี่ยนผ่านจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ และผู้ที่เปลี่ยนมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
รวมไปถึงการให้บริการเพื่อสังคม เป็นบริการพื้นฐานเคียงคู่คนไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทย
ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจหลังภาวะวิกฤติผ่านพ้นไปนายก่อกิจ กล่าวทิ้งท้าย

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ได้ใช้ศักยภาพการเป็นผู้นำด้านการสื่อสารและขนส่ง ดำเนินโครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19”
จัดส่งหน้ากากอนามัย หน้ากากอนามัยชนิด N95 ชุด
PPE และอุปกรณ์ต่างๆ
ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางแพทย์ จากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ เช่น สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
มูลนิธิก้าวคนละก้าว กลุ่มบริษัท IKEA Group
เป็นต้น
ทั้งนี้
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้มีมาตรการต่างๆ จากภาครัฐ
โดยเฉพาะการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เว้นระยะห่างทางสังคม การปิดห้างสรรพสินค้า
และร้านค้าเป็นการชั่วคราว จึงส่งผลให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมาก ทำให้การส่งสิ่งของผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ มีการให้บริการรับฝากส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์เพิ่มขึ้นกว่า 60%
จากปริมาณงานปกติต่อวัน